แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 35
1
ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ








2
ความเชื่อผิดๆของการจัดฟันเด็ก

การจัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรนำบุตรหลานที่มีอายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น เพราะในวัยเด็กเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า การจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยสร้างโอกาสในการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างแน่นอน

นอกจากจะแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้าด้วย ซึ่งในข้อนี้พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่ทราบ ซึ่งหากพ่อแม่ผู้ปกครองพบความผิดปกติของใบหน้าหรือรูปร่างฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและแก้ไขทันที ไม่ควรละเลยและปล่อยให้ปัญหาลุกลามไปจนถึงตอนโต เนื่องด้วยพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าฟันน้ำนมของเด็กไม่มีความสำคัญ จึงละเลยที่จะสอนเด็กให้รู้จักวิธีการทำความสะอาดของช่องปากและฟันตั้งแต่เด็ก เพราะคิดว่ารอให้โตก่อนค่อยสอนให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี

ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะจะเป็นการปล่อยให้ปัญหาฟันลุกลามได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองหลายคนก็ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการจัดในเด็ก หรืออาจจะยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการพาบุตรหลานของท่านเช้ารับการจัดฟัน จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงเรื่องของความเชื่อที่ผิดๆของการจัดฟันในเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่เข้าใจ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก รวมไปถึงจะได้เข้าใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็กเพิ่มมากขึ้น

 หากพูดถึงเรื่องของการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด และสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ หลายคนอาจจะยังมีความเชื่อที่ผิดๆว่า การจัดฟัน มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น มักจะคิดว่า การจัดฟันนั้นมีเพียงเด็กๆ เท่านั้นที่ทำกัน คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปจัดฟันก็ไม่มีประโยชน์อะไร นี่เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะจัดฟัน เพราะเราทุกคนมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันได้ และไม่ว่าจะวัยไหน ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ เพียงแต่ว่า การจัดฟันในเด็กนั้น

จะดีกว่าวัยผู้ใหญ่เพราะสามารภแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า และไม่มีความซับซ้อนเท่ากับการจัดฟันในผู้ใหญ่ จึงไม่แปลกที่พ่อแม่ผู้ปกครองยังมีความคิดที่ผิดๆเกี่ยวกับการจัดฟันในเด็ก นอกจากนี้ยังมีความคิดที่ว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันเสร็จแล้วฟันก็จะอยู่ในสภาพนั้นตลอดไป ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันเสร็จแล้วก็จบกัน ฟันของคุณจะเรียงตัวสวยอยู่สภาพนั้นไปตลอด ไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกเลยตลอดกาล นี่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ไม่เป็นจริง หลังจากที่คุณจัดฟันเสร็จแล้ว ฟันของคุณยังสามารถมีการเคลื่อนที่อยู่ต่อไปได้อีก

ดังนั้นคุณจึงจำเป็นจะต้องใส่ รีเทนเนอร์ ไปอีกตลอดชีวิต เพื่อรักษารูปแบบของฟันให้คงอยู่ดังเดิม และไม่ให้ฟันล้ม จนต้องกลับมาจัดฟันใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่หลายคนมองว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็กแล้ว เมื่อโตไปจะไม่ทำให้เกิดฟันเกี่ยวกับฟันอีก ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็ก และไม่มีวินัยในการสวมใส่รีเทนเนอร์ภายหลังจากการจัดฟันเสร็จแล้ว

อาจจะทำให้เด็กกลับมามีสภาพฟันที่ผิดปกติได้ ดังนั้น ระหว่างการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ควรแนะนำและสอนให้เด็กมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจัดฟันซ้ำเป็นครั้งที่สอง ส่วนในเรื่องของกรรับประทานอาหาร พ่อแม่เกรงว่าลูกจะไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเต็มที่

เนื่องจากมีเครื่องมือกรจัดฟัน อันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น แม้จะมีเครื่องมือในการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากแต่ก็ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้คือความเชื่อที่ผิดๆ ของการจัดฟันในเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวล ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคหรือลดโอกาสในการเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้

 หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามอย่างแน่นอน

3
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



4
หมอประจำบ้าน: ตับแข็ง (Cirrhosis)

ตับแข็ง เป็นโรคตับเรื้อรังที่เซลล์ตับจำนวนมากถูกทำลายอย่างถาวร จนกลายเป็นเยื่อพังผืด (fibrotic tissue) ที่มีลักษณะแข็งกว่าปกติ ตับไม่อาจทำหน้าที่ได้เป็นปกติ ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนที่ร่างกายสร้างตามธรรมชาติ (เป็นเหตุทำให้มีอาการฝ่ามือแดง จุดแดงรูปแมงมุม นมโตและอัณฑะฝ่อในผู้ชาย) การคั่งของสารบิลิรูบิน (ทำให้ดีซ่าน) การสังเคราะห์สารที่ช่วยห้ามเลือดได้น้อยลง (มีภาวะเลือดออกง่าย) มีภาวะความดันในหลอดเลือดดำของตับสูง (ทำให้ท้องมาน หรือมีน้ำคั่งในช่องท้อง หลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร ริดสีดวงทวาร) ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของระบบต่าง ๆ (เช่น ระบบการย่อยและการเผาผลาญอาหาร การแข็งตัวของเลือด การกำจัดยา สารพิษและสารต่างๆ ระบบภูมิคุ้มกันโรค เป็นต้น) 

อาการแรกเริ่มมักเกิดในช่วงอายุระหว่าง 40-60 ปี แต่ถ้าพบในคนอายุน้อยอาจเกิดจากโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิดรุนแรง จากการใช้ยาผิด หรือสารเคมีบางชนิด


สาเหตุ

เซลล์ตับถูกทำลาย ซึ่งมีสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ 

    การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี จนกลายเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง
    การดื่มแอลกอฮอล์จัดติดต่อกันเป็นเวลานาน (เป็นแรมปี) ยิ่งดื่มมากยิ่งเสี่ยงมาก และผู้หญิงที่ดื่มสุรามีความเสี่ยงที่จะเป็นตับแข็งมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากร่างกายมีการเผาผลาญแอลกอฮอล์แตกต่างกันระหว่างชายกับหญิง ทำให้ผู้หญิงรับพิษจากแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ชาย

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากภาวะไขมันสะสมในตับ (fatty liver)* การใช้ยาเกินขนาด (เช่น พาราเซตามอล เตตราไซคลีน ไอเอ็นเอช ไรแฟมพิซิน เมโทเทรกเซต AZT) ภาวะขาดอาหาร หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคต่าง ๆ (เช่น ทาลัสซีเมีย ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง ภาวะทางเดินน้ำดีอุดกั้น หรือท่อน้ำดีตีบตัน ตับอักเสบเรื้อรังจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง) หรือจากพิษของสารเคมีบางชนิด (เช่น คลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตราคลอไรด์ สารโลหะหนัก)

*พบในผู้ป่วยเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง กลุ่มอาการเมตาบอลิก** คนอ้วน ผู้ที่ขาดอาหาร ดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือใช้ยาสเตียรอยด์นาน ๆ

**กลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome หรือเดิมเรียกว่า syndrome X) ประกอบด้วย ภาวะเสี่ยงอย่างน้อย 3 ข้อ จาก 5 ข้อต่อไปนี้

1. ความดันโลหิตช่วงบน ≥ 130 มม.ปรอท และ/หรือความดันโลหิตช่วงล่าง ≥ 85 มม.ปรอท หรือกินยารักษาความดันโลหิตสูงอยู่

2. ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง (FPG) ≥ 100 มก./ดล.

3. เส้นรอบเอว ≥ 90 ซม. ในผู้ชาย หรือ ≥ 80 ซม. ในผู้หญิง

4. ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ≥ 150 มก./ดล.

5. ระดับเอชดีแอลคอเลสเตอรอลในเลือด < 40 มก./ดล. ในผู้ชาย หรือ < 50 มก./ดล. ในผู้หญิง

กลุ่มอาการเมตาบอลิก พบได้มากขึ้นตามอายุ (อายุมากกว่า 60 ปี อาจพบมากถึงร้อยละ 40) และพบในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก (ดัชนีมวลกาย ≥ 25 กก./ตร.ม. พบได้ประมาณร้อยละ 20 ≥ 30 กก./ตร.ม. พบได้มากกว่าร้อยละ 50)

ผู้ที่มีกลุ่มอาการเมตาบอลิกมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะไขมันสะสมในตับ (fatty liver) ซึ่งอาจกลายเป็นตับอักเสบที่เรียกว่า “Non-aloholic steatohepatitis/NASH” ซึ่งในที่สุดอาจกลายเป็นตับแข็งและมะเร็งตับได้

การรักษา ปรับพฤติกรรมแบบเดียวกับโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ถ้าจำเป็นอาจต้องให้ยาควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่พบ

อาการ

ระยะแรกเริ่ม อาจไม่มีอาการผิดปกติชัดเจน หรือมีเพียงอาการท้องอืด ท้องเฟ้อคล้ายอาหารไม่ย่อย ต่อมาเป็นแรมปีอาจเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนเป็นบางครั้ง น้ำหนักลด เท้าบวม

อาจรู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงขวาเล็กน้อย ตาเหลือง คันตามผิวหนัง ความรู้สึกทางเพศลดลง

บางรายอาจสังเกตเห็นฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือมีจุดแดงที่หน้าอก หน้าท้อง

ในผู้หญิงอาจมีอาการประจำเดือนขาดหรือมาไม่สม่ำเสมอ มีหนวดขึ้น หรือมีเสียงแหบห้าวคล้ายผู้ชาย

ในผู้ชายอาจรู้สึกนมโตและเจ็บ (gynecomastia) อัณฑะฝ่อตัว หรือมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือองคชาตไม่แข็งตัว (erectile dysfunction/ED)

ในระยะท้ายของโรค (หลังเป็นอยู่หลายปี หรือยังดื่มแอลกอฮอล์จัด) จะมีอาการท้องมาน เท้าบวมหลอดเลือดขอดที่ขา หลอดเลือดพองที่หน้าท้อง อาจอาเจียนเป็นเลือดสด ๆ เนื่องจากหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร (esophageal varices) แล้วแตก ซึ่งอาจถึงช็อกและตายได้

ผู้ป่วยมักจะลงเอยด้วยอาการซึม เพ้อ มือสั่น และค่อย ๆ ไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งหมดสติ


ภาวะแทรกซ้อน

เกิดภาวะขาดอาหาร น้ำหนักลด ผอมแห้ง เป็นตะคริวง่าย กระดูกพรุนและหักง่าย ภูมิคุ้มกันโรคลดลงทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย (เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม วัณโรค เยื่อบุช่องท้องอักเสบ)

ถ้าเป็นเรื้อรัง จะมีภาวะเลือดออกง่ายและหยุดยาก เนื่องเพราะตับไม่สามารถสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือด (clotting factors) ทำให้กระบวนการแข็งตัวของเลือดบกพร่อง

ที่ร้ายแรง จะมีอาการอาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร (esophageal varices) แล้วแตก ซึ่งบางรายอาจรุนแรงถึงช็อกและตายได้

ในผู้ป่วยที่เป็นตับแข็งระยะรุนแรง อาจมีภาวะไตวายแทรกซ้อน

ในระยะสุดท้ายเมื่อตับทำงานไม่ได้ (ตับวาย) ก็จะเกิดอาการทางสมอง (hepatic encephalopathy) ในที่สุดมีอาการหมดสติ เรียกว่า ภาวะหมดสติจากตับวาย (hepatic coma)

นอกจากนี้ยังพบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งเซลล์ตับสูงกว่าคนปกติ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ฝ่ามือแดง มีจุดแดงรูปแมงมุมที่หน้าอก หน้าท้อง จมูก ต้นแขน เท้าบวม ท้องบวม

อาจมีอาการตาเหลืองเล็กน้อยหรือไม่มีก็ได้

อาจมีไข้ต่ำ ๆ ต่อมน้ำลายข้างหู (parotid gland) โตคล้ายคางทูม หรือมีอาการขนร่วง

ในผู้ชายอาจพบอาการนมโตและเจ็บ

อาจคลำตับได้ มีลักษณะค่อนข้างแข็ง ผิวเรียบ

ถ้าเป็นมาก จะพบว่ารูปร่างผอมแห้ง ซีด ท้องโตมาก หลอดเลือดพองที่หน้าท้อง มือสั่น ม้ามโต นิ้วปุ้ม มีจุดแดงจ้ำเขียวตามผิวหนัง

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือด (ทดสอบการทำงานของตับและหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี) อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ สแกนตับ

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจวัดปริมาณพังผืดในตับ (ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า “Transient elastography” โดยการใช้เครื่องอัลตราซาวนด์พิเศษ–“Fibroscan”) หรือทำการตรวจชิ้นเนื้อตับ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษาดังนี้

1. ถ้าเป็นตับแข็งในระยะแรกเริ่ม แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

    ให้การรักษาตามอาการ และบำรุงร่างกายด้วยอาหาร และวิตามินเกลือแร่เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะขาดสารอาหาร (เช่น ถ้ามีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก ก็ให้ยาเม็ดบำรุงโลหิต)
    ข้อสำคัญผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์ต้องงดดื่มโดยเด็ดขาด และหลีกเลี่ยงหรือระมัดระวังการใช้ยาที่อาจมีผลกระทบต่อตับ 
    ถ้าพบสาเหตุของตับแข็ง ก็ให้บำบัดแก้ไข เช่น ถ้าเกิดจากการดื่มสุราจัด ก็จะทำการบำบัดให้เลิกสุรา ถ้าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ก็จะให้ยาต้านไวรัส
    ป้องกันการติดเชื้อด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ
    ถ้ามีอาการบวมหรือท้องมาน (มีน้ำในท้อง) ก็ให้ยาขับปัสสาวะ งดอาหารเค็ม จำกัดปริมาณน้ำที่ดื่ม
    ทำการตรวจกรองมะเร็งตับระยะแรกด้วยการตรวจเลือด (รวมทั้งดูระดับของสารแอลฟาฟีโตโปรตีนในเลือด) และการตรวจอัลตราซาวนด์ ทุก 6 เดือน

2. ถ้ามีโรคติดเชื้อ (เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ) อาการซึม เพ้อ ไม่ค่อยรู้ตัว ไตวาย อาเจียนเป็นเลือด หรือมีเลือดออกตามที่ต่าง ๆ แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาล แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ/ยาต้านไวรัส (ถ้ามีโรคติดเชื้อแบคทีเรีย/ไวรัส) ให้เลือด (ถ้าเสียเลือด) ล้างไต (ถ้ามีภาวะไตวาย) และรักษาภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่ตรวจพบ

ผู้ป่วยอาจต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ จนในที่สุดมักจะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตกเลือด ภาวะตับวาย โรคติดเชื้อ เป็นต้น

3. แพทย์อาจพิจารณาทำการปลูกถ่ายตับในผู้ป่วยตับแข็งบางราย ซึ่งช่วยให้สามารถมีชีวิตยืนยาว


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง อ่อนเพลีย ปวดเสียดใต้ชายโครงขวา หรือพบฝ่ามือแดง จุดแดงรูปแมงมุม เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตับแข็ง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

    ห้ามดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันมิให้เซลล์ตับส่วนที่ยังดีอยู่ถูกทำลายมากขึ้น หากเป็นโรคตับแข็งในระยะแรกเริ่ม ก็จะช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้ยาวนาน
    กินอาหารพวกแป้งและของหวาน ผัก ผลไม้สด และอาหารพวกโปรตีนเป็นประจำ ยกเว้นในระยะท้ายของโรค ที่เริ่มมีอาการทางสมองร่วมด้วย จำเป็นต้องลดอาหารพวกโปรตีนลงเหลือวันละ 30 กรัม เพราะอาจสลายตัวเป็นสารแอมโมเนียที่มีผลต่อสมอง
    ถ้ามีอาการบวมหรือท้องมาน ควรงดอาหารเค็ม และห้ามดื่มน้ำเกินวันละ 2 ขวดกลมหรือ 6 ถ้วย (1‚500 มล.)
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาและสมุนไพรด้วยตัวเอง เพราะอาจมีพิษต่อตับมากขึ้น ถ้าจะใช้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
    รักษาร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกายตามที่ร่างกายจะอำนวย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หาทางผ่อนคลายความเครียด ไม่สูบบุหรี่ สร้างสุขนิสัยในการป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร (เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปในที่ ๆ มีคนแออัด หรือมีการระบาดของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือชโลมมือด้วยแอลกอฮอล์ เป็นต้น)

2. ติดต่อรักษากับแพทย์ตามนัด อาจต้องตรวจเลือดและอื่น ๆ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของโรคเป็นระยะ ๆ

3. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด

    ถ้ามีอาการไข้ ปวดท้องมาก ซึมมาก เพ้อ อ่อนเพลียมาก กินไม่ได้ อาเจียนเป็นเลือด หรือมีเลือดออกตรงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือมีอาการที่ชวนให้รู้สึกวิตกกังวล
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากหรือติดต่อกันนาน ๆ และถ้าตรวจพบว่าเป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ควรงดดื่มโดยเด็ดขาด

2. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบจากไวรัสบี ตั้งแต่แรกเกิด

3. ระมัดระวังในการใช้ยาที่อาจมีพิษต่อตับ

4. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไขมันสะสมในตับ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดตับแข็ง

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถ้าเป็นระยะแรกเริ่ม และปฏิบัติตัวได้เหมาะสม จะสามารถมีชีวิตได้นานเกิน 5-10 ปีขึ้นไป แต่ถ้าปล่อยให้มีภาวะแทรกซ้อนชัดเจน เช่น ดีซ่าน ท้องมาน อาเจียนเป็นเลือด ก็อาจอยู่ได้ 2-5 ปี (ประมาณ 1 ใน 3 อาจอยู่ได้เกิน 5 ปี)

2. ผู้ป่วยตับแข็งที่ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ควรตรวจเลือดหาสารแอลฟาฟีโตโปรตีน (alphafetoprotein) ทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจกรองหาโรคมะเร็งตับระยะแรกเริ่ม เพราะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้สูง

5
ขายรถราคาพิเศษ Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus ทำโปรฟรีดาวน์ได้

มิตซูบิชิ Mitsubishi Pajero Sport GT-PLUS ปี 2020
Mitsubishi Pajero Sport GT-PLUS รถยนต์อเนกประสงค์ รุ่นปรับปรุง เพิ่มเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรีและปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ และจอภาพขนาด 12.1 นิ้ว มาพร้อมกับรีโมทและหูฟังอินฟาเรด ระบบ Brake Auto Hold เบรกอัตโนมัติเมื่อจอดอยู่กับที่ (BAH) ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (APB) กล้องมองภาพรอบคัน (MAM)

Mitsubishi Pajero Sport GT-PLUS เครื่องยนต์ดีเซล MIVEC VG Turbo 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบ/นาที /ขับเคลื่อนล้อหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 15 ก.ย. - 30 ธ.ค. 2567
ส่วนลด 210,000 สามารถนำมาเป็นเงินดาวน์เพื่อทำโปรฟรีดาวน์ได้

ราคาพิเศษ 1,189,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              Mitsubishi
   รุ่น                   มิตซูบิชิ Mitsubishi Pajero Sport GT-PLUS ปี 2020
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ SUV
   ปีที่เปิดตัว          2020


6
motor expo Deepal ผุดโชว์รูมใหม่ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี โชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจรจาก ไพรม์มัส กรุ๊ป

ไพรม์มัส กรุ๊ป ต่อยอดความสำเร็จ เสริมความแกร่งกลุ่มธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ผุด ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี โชว์รูม-ศูนย์บริการครบวงจรใหญ่สุดในไทย รับเศรษฐกิจขยายตัวในอนาคต ชู 3 กลยุทธ์ มัดใจลูกค้าภาคตะวันออก มุ่งเป็นที่ 1 ในใจลูกค้า และขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถ EV ประเดิมจัดโปร ฟรี! ดอกเบี้ย ผ่อนนาน 48 เดือน หมดเขต 31 ต.ค.นี้

นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธานกลุ่มบริษัท ไพรม์มัส กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง (TOAVH) เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการพัฒนาเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปิดกว้างสำหรับรถยนต์แบรนด์ใหม่ ทำให้มีบริษัทรถยนต์เข้ามาเปิดตลาดในไทยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดตื่นตัวและมีการแข่งขันมากขึ้น

ในฐานะที่ ไพรม์มัส กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ระดับชั้นแนวหน้า จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ผนวกกับแนวคิดที่จะมุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม จึงเลือกเป็นพันธมิตรกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่มีศักยภาพครอบคลุมทุกด้าน โดยได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจาก CHANGAN แบรนด์รถยนต์ชั้นนำ 1 ใน 4 ของจีน และ อีเทอร์นิตี้แอทวัน : Eternity At One บริษัทมืออาชีพด้านการดูแลธุรกิจกลุ่มผุ้แทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Deepal แต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Deepal อย่างเป็นทางการ  ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่จังหวัดชลบุรี
 
ขณะที่จังหวังชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงระดับประเทศ และเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ทำให้มีการลงทุนเมกกะโปรเจ็คจากภาครัฐ-เอกชนจำนวนมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์โดยรวมของชลบุรีที่มีการขยายตัวมากขึ้น โดยเป็นตลาดใหญ่มียอดจดทะเบียนเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร

ประกอบกับ ไพรม์มัส กรุ๊ป มีความชำนาญและประสบการณ์การทำตลาดรถยนต์ในเขตพื้นที่ชลบุรี ทั้งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของเรา ทำให้เชื่อมั่นว่า การลงทุนก่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการ “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” ด้วยเม็ดเงินกว่า 50 ล้าน บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ ที่มีบริการครบวงจร จะช่วยต่อยอดความสำเร็จในการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ให้ “ไพรม์มัส กรุ๊ป” และแบรนด์รถยนต์ Deepal ได้อย่างแน่นอน

รายชื่อประธานในพิธีเปิดโชว่รูมและศูนย์บริการ คุณธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี (ที่ 3 จากซ้าย), มิสเตอร์โจว ซิ่ง รองประธาน บจก.ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) (ที่ 2 จากซ้าย), คุณทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานกรรมการบริหาร บจก.อีเทอร์นิตี้ แอทวัน (ที่ 1 จากซ้าย), คุณณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป และทีโอเอเวนเจอร์ โฮลดิ้ง (ที่ 2 จากขวา) และ คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส โมบิลิตี้ และบริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป (ที่ 1 จากขวา)

การพิธีเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของ ไพรม์มัส กรุ๊ป ในการทำตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการดูแลและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในทุกมิติ เพราะสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจของเรา ไม่ใช่เพียงการซื้อรถยนต์ แต่รวมถึงการดูแลอย่างจริงใจและดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของไพรม์มัส กรุ๊ป

คุณจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพรม์มัส โมบิลิตี้ จำกัด และบริษัทในเครือไพรม์มัส กรุ๊ป เปิดเผยว่า ไพรม์มัส กรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ระดับชั้นแนวหน้า ที่มุ่งเน้นกลุยทธ์หลักในการบริหารงาน คือ 1.การบริการครบวงจรจบในที่เดียว 2.ทีมงานมืออาชีพ มากประสบการณ์ และ 3.การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ที่ผ่านบทพิสูจน์ความสำเร็จจากการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ทั้งสาขาเลียบด่วน และสาขาพัทยา ด้วยการเติบโตของยอดจำหน่ายและจำนวนรถยนต์ที่เข้าใช้บริการที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และที่ภาคภูมิใจมากสุด คือ การได้คะแนน CSI สูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยเหตุนี้ เราจึงนำกลยุทธ์แห่งความสำเร็จนี้ มาใช้ในการบริหารงานที่  “ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี” และสาขาต่างๆ ของ ไพรม์มัส กรุ๊ป 


สำหรับ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-อ่างศิลา มีพื้นที่รวมทั้งหมด 6,290 ตร.ม.นับเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการดีพอลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดไทย  โดยด้านหน้าเป็นโชว์รูมจัดแสดงรถยนต์ Deepal ทุกรุ่น ทุกแบบ ได้มากกถึง 10 คัน และโซนรับรองลูกค้าที่กว้างขวาง สะดวกสบาย สำหรับรองรับการเข้ารับบริการทั้งด้านการขายและบริการหลังการขาย โดยบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มที่คัดสรรสำหรับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมห้องรับรองลูกค้าแบบ Exclusive ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวโดยเฉพาะ และโซนส่งมอบรถยนต์ในแบบ Private ที่จะร่วมส่งมอบความประทับใจในการเป็นครอบครัวเดียวกันกับ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี


ส่วนอาคารด้านหลัง เป็นศูนย์บริการมาตรฐานครบวงจร มีพื้นที่ร่วม 1,000 ตร.ม. พร้อมช่องซ่อม 8 ช่องซ่อม รองรับรถยนต์เข้ารับบริการได้มากถึง 500 คัน/เดือน  โดยมีบริการซ่อมแซม การบำรุงรักษา และการดูแลรถยนต์ Deepal ทุกรุ่น ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ มากประสบการณ์ด้านการขายและบริการหลังการขาย ทั้งผ่านการอบรมทุกหลักสูตรตามมาตรฐานของ Changan นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมืออุปกรณ๋ที่ทันสมัยตามมาตรฐานของบริษัทแม่ เพื่อการรองรับงานบริการที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว พร้อมมีบริการรับซ่อมจากบริษัทประกันชั้นนำมากมาย และบริการยกรถเข้าซ่อมฟรี กรณีเกิดอุบัติเหตุ


นายจิระพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี มีนโยบายที่จะสร้างศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐานระดับสูง สำหรับให้บริการรถยนต์ Deepal บริเวณพื้นที่ด้านหลังศูนย์บริการ เพื่อรองรับความต้องการให้แก่ลูกค้าแบบครบวงจร คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการ ประมาณเดือนพฤศจิกายน ศกนี้  และเพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และดีไซน์ที่โดดเด่น สวยงาม ทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ของ Deepal ทาง ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี ได้จัดแสดงรถยนต์ Deepal ให้เลือกชมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดครบทุกรุ่น ได้แก่

Deepal S07 รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้า 100% โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Deepal S07 Standard Range ราคา 1,399,000 บาท และรุ่น Deepal S07 Long Range ราคา 1,499,000 บาท
Deepal L07 รถสปอร์ต ฟาสต์แบ็ก ที่สวยงาม โฉบเฉี่ยว ทันสมัย การันตีด้วยรางวัลด้านดีไซน์ระดับโลก Red Dot Long Range ราคาจำหน่าย 1,329,000 บาท

Lumin EV City Car ยานยนต์ไฟฟ้าสุดคิวท์สำหรับคนในเมือง มีให้เลือกทั้งระบบชาร์จแบบ AC และ DC ในราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 479,000 บาท
 
พร้อมแคมเปญสุดพิเศษ Deepal Big Deal เมื่อจองรถยนต์ Deepal รุ่น S07 และรุ่น L07 รับฟรี! ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 + พ.ร.บ. นานสุด 2 ปี และทุกรุ่น รับ Deepal Premium Care มูลค่า 250,000 บาท พิเศษ! เฉพาะรุ่น L07 รับ Cashback มูลค่า 40,000 บาท หรือเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ Lumin รับข้อเสนอโปรแกรมช่วยผ่อนนาน 1 ปี มูลค่า 36,000 บาท รับฟรี! ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรี! ประกันภัยชั้น1 + พ.ร.บ. นานสุด 2 ปี พิเศษ! รับ Cashback มูลค่า 12,500 บาท พร้อมสิทธิ์แลกซื้อเครื่องชาร์จและค่าติดตั้ง ในราคาพิเศษเพียง 14,999 บาท  จากราคาเต็ม 24,999 บาท หมดเขต 31 ตุลาคมศกนี้ และยังมีเซอร์วิสแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้า Deepal ทุกรุ่น รับบริการตรวจเช็ครถฟรี 41 รายการ เฉพาะที่ศูนย์บริการ ดีพอล ไพรม์มัส ชลบุรี และ รามคำแหงเท่านั้น ถึงวันที่ 31 ตุลาคม ศกนี้

7
โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphomas)

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นมะเร็งของเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์* ซึ่งเกิดขึ้นที่ระบบน้ำเหลือง (lymph system) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หลัก ๆ ประกอบด้วยต่อมไทมัส ม้าม ไขกระดูก และต่อมน้ำเหลือง (ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วร่างกาย ตามคอ รักแร้ ข้อพับแขน ข้อพับขา ช่องอก ช่องท้อง และอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย) มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงอาจเริ่มเกิดขึ้นได้ที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใดบริเวณหนึ่ง หรืออวัยวะอันใดอันหนึ่ง เช่น กระเพาะ ลำไส้ ทอนซิล ตับ ตับอ่อน ปอด สมอง ไขสันหลัง

โดยภาพรวม โรคนี้พบได้มากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น พบมากสุดในช่วงอายุ 60-70  ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย ในบ้านเรามะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 5 ในผู้ชาย และอันดับ 9 ในผู้หญิง

เนื่องจากลิมโฟไชต์มีอยู่หลายชนิดย่อย มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจึงมีอยู่หลายชนิดย่อย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma/HL) พบได้ในคนทุกวัย แต่จะพบบ่อยในช่วงอายุ 15-30 ปี และมากกว่า 55 ปี มะเร็งชนิดนี้จะตรวจพบเซลล์ผิดปกติที่เรียกว่า "เซลล์รีดสเทิร์นเบิร์ก (Reed-Sternberg cells)" ที่ต่อมน้ำเหลือง (ซึ่งจะไม่พบในโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน) ในปัจจุบันมะเร็งชนิดนี้พบว่ามีอยู่ 6 ชนิดย่อยด้วยกัน ส่วนใหญ่จะเริ่มเกิดอาการขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณส่วนบนของร่างกาย เช่น คอ ทรวงอก รักแร้

2. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน (non-Hodgkin lymphoma/NHL) พบได้มากกว่าชนิดฮอดจ์กิน (พบประมาณร้อยละ 85-90 ของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองทั้งหมด) และมีการแพร่กระจายได้เร็ว พบได้ในคนทุกวัย และพบมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น มักพบบ่อยในคนอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และผู้ป่วยที่ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ในปัจจุบันมะเร็งชนิดนี้พบว่ามีอยู่กว่า 60 ชนิดย่อยด้วยกัน มะเร็งชนิดนี้สามารถเริ่มเกิดอาการขึ้นที่ต่อมน้ำเหลืองส่วนใดของร่างกายก็ได้ และส่วนใหญ่เกิดจากการกลายพันธุ์ของลิมโฟไซต์ชนิดบี (B lymphocyte)

นอกจากนี้ เมื่อแบ่งตามการเจริญของมะเร็ง มะเร็งชนิดนอนฮอดจ์กินนี้ยังแบ่งเป็น 2 ชนิดย่อย ได้แก่ ชนิดค่อยเป็นค่อยไป หรือ indolent (ซึ่งมีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งค่อนข้างช้า แต่มักจะรักษาได้ไม่หายขาด) กับชนิดรุนแรง หรือ aggressive (ซึ่งมีอัตราการแบ่งตัวของมะเร็งเร็ว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6 เดือน-2 ปี แต่ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องมีโอกาสที่จะหายขาดได้)

อย่างไรก็ตาม มะเร็งต่อมน้ำเหลืองทุกชนิดมีอาการและวิธีรักษาคล้ายคลึงกัน ส่วนผลการรักษาจะแตกต่างกัน ขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค สภาพของผู้ป่วย และการตอบสนองต่อการรักษา

* ลิมโฟไซต์ (lymphocyte) เป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม แบ่งเป็นชนิดบีกับชนิดที

ลิมโฟไซต์ชนิดบี (B lymphocyte) ทำหน้าที่สร้างสารภูมิต้านทาน (antibody) คือ อิมมูโนโกลบูลิน (immunoglobulin) จำเพาะต่อเชื้อโรคชนิดหนึ่ง ๆ ซึ่งไหลเวียนอยู่ในเลือดและสารน้ำทั่วร่างกาย (เรียกว่า humoral immunity)

ลิมโฟไซต์ชนิดที (T lymphocyte) ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของลิมโฟไซต์ชนิดบี โดย helper T cell สร้างสารลิมโฟไคน์ (lymphokines) ในการควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และทำลายเชื้อโรคโดยตรงโดย killer (cytotoxic) T cell (เรียกว่า cell mediated Immunity)   

สาเหตุ

ปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ชัดเจน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจพบมีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ (ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมากขึ้นในคนบางคน)

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน พบว่าอาจมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การมีประวัติมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ชนิดใดชนิดหนึ่ง) ในครอบครัว การมีประวัติการติดเชื้อไวรัสอีบีวี (EBV หรือ Epstein-Barr virus เช่น โรค infectious mononucleosis)

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอนฮอดจ์กิน พบว่าอาจมีปัจจัยเสี่ยง  ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส (เช่น ไวรัสตับอักเสบซี, ไวรัสเอชทีแอลวี-1 หรือ HTLV-1, ไวรัสอีบีวี หรือ EBV, เอชไอวี), การติดเชื้อแบคทีเรีย (เช่น เชื้อเฮลิโคแบกเตอร์ไพโลไร ซึ่งทำให้เกิดโรคแผลเพ็ปติก), ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ป่วยที่ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ), ผู้ที่เป็นโรคภูมิต้านตัวเอง (เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เอสแอลอี), การสัมผัสสารเคมีบางชนิด (เช่น เบนซิน ยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้าบางชนิด)

อาการ

อาการที่โดดเด่น คือ มีก้อนบวม (ของต่อมน้ำเหลือง) ที่ข้างคอ รักแร้ หรือขาหนีบ นานเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นแรมเดือนโดยไม่รู้สึกเจ็บ บางรายอาจมีก้อนขึ้นพร้อมกันหลายแห่ง

บางรายอาจมีไข้เรื้อรังโดยตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติอื่น ๆ หรืออาจมีไข้สูงอยู่หลายวันสลับกับไม่มีไข้หลายวัน อาจมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ได้ตั้งใจ เหงื่อออกตอนกลางคืน หนาวสั่น ทอนซิลโต หรือคันตามผิวหนัง

ผู้ป่วยอาจมีอาการที่เกิดจากก้อนมะเร็งต่อมน้ำเหลืองกดถูกอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น

    ถ้าเกิดในช่องอก ทำให้มีอาการไอ เจ็บแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หน้าบวม คอบวม แขนบวม
    ถ้าเกิดในช่องท้อง ทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก เบื่ออาหาร ดีซ่าน
    ถ้าเกิดในลำไส้เล็ก ทำให้มีอาการน้ำหนักลด ท้องเดิน ลำไส้ไม่ดูดซึมอาหาร
    ถ้าเกิดที่ขาหนีบ อาจมีอาการขาบวมจากภาวะอุดกั้นทางเดินน้ำเหลือง
    ถ้าเกิดในสมอง ไขสันหลังหรือระบบประสาท ทำให้มีอาการปวดศีรษะ แขนขามีอาการปวด หรือชาหรืออ่อนแรง เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

มักเกิดจากการที่มีก้อนของมะเร็งไปกดหรือทำลายอวัยวะต่าง ๆ เช่น ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นของระบบไหลเวียนเลือดหรือน้ำเหลือง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ (อาจทำให้เกิดภาวะไตวายตามมาได้) เป็นต้น

ถ้ามะเร็งลุกลามเข้าสมอง ไขสันหลัง หรือกดถูกเส้นประสาทสันหลัง ก็ทำให้ปวดศีรษะ แขนขามีอาการปวด หรือชา หรืออ่อนแรง

ถ้ามะเร็งลุกลามเข้าไขกระดูก ก็ทำให้สร้างเม็ดเลือดทุกชนิดไม่ได้ ทำให้เกิดภาวะซีด เลือดออกง่าย และติดเชื้อง่าย ซึ่งอาจรุนแรงจนเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้

ถ้ามีก้อนมะเร็งที่กระเพาะอาหาร นอกจากเกิดภาวะกระเพาะอาหารอุดกั้นแล้ว ยังอาจมีเลือดออก (อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ)


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากการซักถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และตรวจร่างกายพบสิ่งผิดปกติ ที่สำคัญคือ ตรวจพบก้อนบวมของต่อมน้ำเหลืองที่คอ รักแร้หรือขาหนีบ ลักษณะแข็ง ไม่เจ็บ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 ซม.

บางรายอาจพบว่ามีไข้ ทอนซิลโต ตับโต ม้ามโต ดีซ่าน แขนขาบวม แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามผิวหนัง

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตัดต่อมน้ำเหลืองนำไปตรวจพิสูจน์ (lymph node biopsy) ซึ่งจะพบลักษณะของเซลล์ที่เป็นมะเร็ง สำหรับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กินจะพบเซลล์มะเร็งที่เรียกว่า "เซลล์รีดสเทิร์นเบิร์ก (Reed-Sternberg cells)"

แพทย์จะทำการตรวจเลือด (เช่น ดูจำนวนของเม็ดเลือดต่าง ๆ การทำงานของตับ ไต) ตรวจไขกระดูก (ตรวจหาเซลล์มะเร็งในไขกระดูก)

นอกจากนี้ แพทย์จะทำการประเมินภาวะแทรกซ้อนและระยะของโรค ด้วยการเอกซเรย์ปอด ถ่ายภาพอวัยวะตามส่วนต่าง ๆ (เช่น ทรวงอก ช่องท้อง สมอง ไขสันหลัง) ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเพตสแกน (PET scan) และ/หรือทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะทำการรักษาโดยพิจารณาจากชนิดและระยะของโรคมะเร็งต่อมนำเหลือง

ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเจริญช้า (หรือชนิดค่อยเป็นค่อยไป) และมีอาการยังไม่มาก แพทย์จะเฝ้าติดตามดูอาการเปลี่ยนแปลง และนัดมาตรวจ (เช่น ตรวจเลือด ตรวจทางรังสี) เป็นระยะ จนกว่าจะมีอาการมากขึ้นจึงจะให้การรักษา

ในรายที่มีอาการมาก หรือเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเจริญหรือลุกลามเร็ว แพทย์ก็จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดเพียงอย่างเดียว หรือร่วมกันทั้งสองอย่าง ขึ้นกับชนิดและระยะของโรค เช่น ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน ส่วนใหญ่จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว หรือเคมีบำบัดร่วมกับรังสีบำบัด หรือเคมีบำบัดร่วมกับการให้ยาสเตียรอยด์

ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 1 (พบเพียงบริเวณเดียว) และเป็นชนิดไม่รุนแรง ก็สามารถให้รังสีบำบัดเพียงอย่างเดียว

ในรายที่เป็นชนิดรุนแรงหรือระยะท้าย ๆ ก็จำเป็นต้องให้เคมีบำบัดร่วมกับรังสีบำบัด และยาอื่น ๆ เช่น ยารักษาแบบมุ่งเป้า (targeted drugs เช่น rituximab) ยาอิมมูนบำบัด (immunotherapy drugs) เป็นต้น

ในรายที่มีการเกิดโรคกลับ (relapse) แพทย์จะให้เคมีบำบัดด้วยขนาดยาที่สูง และทำการปลูกถ่ายไขกระดูกหรือเซลล์ต้นกำเนิด ก็มักช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้นหรือหายได้

ผลการรักษา ขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค สภาพของผู้ป่วย และการตอบสนองต่อการรักษา

ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ๆ มักจะได้ผลดี สามารถหายเป็นปกติ และมีชีวิตที่ยืนยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน

ถ้าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะท้าย หรือชนิดรุนแรง (เจริญเร็ว) การรักษาก็มักจะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร


การแบ่งระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ระยะที่ 1: มีรอยโรคที่ต่อมน้ำเหลือง บริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกายเพียงแห่งเดียว (เช่น คอด้านซ้ายหรือด้านขวา หรือรักแร้ด้านซ้ายหรือด้านขวา หรือขาหนีบด้านซ้ายหรือด้านขวา) หรือมีรอยโรคที่นอกต่อมน้ำเหลือง (คือที่อวัยวะอันใดอันหนึ่งภายในร่างกาย) เพียงแห่งเดียว

ระยะที่ 2: มีรอยโรคของต่อมน้ำเหลืองตั้งแต่ 2 ตำแหน่งขึ้นไป (เช่น คอด้านซ้ายกับคอด้านขวา หรือคอด้านซ้ายกับรักแร้ด้านซ้าย หรือขาหนีบด้านซ้ายกับขาหนีบด้านขวา) หรือมีรอยโรคที่อวัยวะอันใดอันหนึ่งและที่ต่อมน้ำเหลือง 1 ตำแหน่งหรือมากกว่า โดยที่รอยโรคทั้งหมดยังจำกัดอยู่ในบริเวณที่อยู่เหนือกะบังลมขึ้นไปด้วยกัน หรือในบริเวณที่อยู่ใต้กะบังลมลงมาด้วยกัน

ระยะที่ 3: มีรอยโรคของต่อมน้ำเหลือง ทั้งที่ในบริเวณที่อยู่เหนือกะบังลมขึ้นไป และในบริเวณที่อยู่ใต้กะบังลมลงมาพร้อมกัน (เช่น คอกับขาหนีบ รักแร้กับขาหนีบ) และอาจพบรอยโรคที่อวัยวะนอกต่อมน้ำเหลือง และ/หรือที่ม้ามร่วมด้วย

ระยะที่ 4: มีรอยโรคที่กระจายไปที่อวัยวะต่าง ๆ (เช่น ปอด ตับ ไขกระดูก สมอง ไขสันหลัง กระเพาะ ลำไส้ กระดูก) มากกว่า 1 ตำแหน่ง โดยไม่นับรวมม้ามกับต่อมไทมัส


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น คลำได้ก้อนบวมของต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอ รักแร้ หรือขาหนีบ หรือมีไข้เรื้อรัง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือน้ำหนักลด เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ)  ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์และทีมสุขภาพที่ดูแล


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การติดเชื้อไวรัสบางชนิด (เช่น เอชไอวี) สารเคมีบางชนิด (เช่น เบนซิน ยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้าบางชนิด) เป็นต้น อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคนี้

ควรป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม โดยการไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เมื่อสังเกตว่ามีอาการที่น่าสงสัย

ข้อแนะนำ

1. มะเร็งต่อมน้ำเหลืองไม่ใช่โรคติดต่อ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหรือเป็นญาติพี่น้องกับผู้ป่วย ไม่ต้องกลัวว่าจะติดโรคจากผู้ป่วย

2. การรักษากับแพทย์ในโรงพยาบาลให้ผลดีมากกว่าการไม่รักษา ผู้ป่วยควรมีกำลังใจเข้ารับการรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่องตามที่แพทย์นัด และอดทนต่อผลข้างเคียงของการใช้ยาเคมีบำบัด (เช่น ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร) ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมักเป็นเพียงชั่วคราว

3. ในปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการรักษาด้วยยากลุ่มใหม่ ๆ (ซึ่งใช้สะดวก ได้ผลดีและมีผลข้างเคียงน้อย) และการปลูกถ่ายไขกระดูกหรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้น หรือบางรายอาจหายขาดได้

4. เนื่องจากมะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาจเกิดขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็ได้ โรคนี้จึงมีอาการแสดงได้หลากหลาย ขึ้นกับตำแหน่งที่เกิดขึ้นของมะเร็ง และระยะของโรค

อาการที่เห็นได้ชัด คือ ก้อนบวมที่พบและคลำได้จากภายนอก เช่น ก้อนที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ แต่บางรายอาจเกิดขี้นที่อวัยวะภายใน โดยไม่พบก้อนที่ภายนอกก็ได้ ดังนั้นผู้ที่มีอาการเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่พบในระยะแรก เช่น ไอเรื้อรัง (ทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคหลอดลมหรือโรคปอด ซึ่งแพทย์อาจลองตรวจรักษาแบบโรคหลอดลมหรือโรคปอดแล้วไม่ได้ผล) ปวดท้องเรื้อรัง (ทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคกระเพาะ ซึ่งแพทย์อาจลองตรวจรักษาแบบโรคกระเพาะแล้วไม่ได้ผล) ปวดศีรษะเรื้อรัง แขนขาชาหรืออ่อนแรง (ทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคของสมองหรือระบบประสาท ซึ่งแพทย์อาจลองตรวจรักษาแบบโรคของสมองหรือระบบประสาทแล้วไม่ได้ผล) ก็ควรมีความอดทน และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง แพทย์ก็จะทำการตรวจด้วยวิธีต่าง ๆ เพิ่มเติม ในที่สุดก็มักจะตรวจพบร่องรอยของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกาย

8
มือถือ Vivo วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
19,999 บาท

วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
ดีไซน์เรียบง่าย แต่สง่างาม
กล้องเลนส์ ZEISS ระดับโปรทั้ง 3
ทุกเลนส์กล้องรับรอง มาตรฐานเลนส์ ZEISS
ออร่าพอร์ตเทรต อัปเกรดใหม่ ใช้ถ่ายภาพพอร์ตเทรต ได้อย่างงดงาม
วิดีโอพอร์ตเทรต ถ่ายสวยด้วยแสงออร่า
ดดเด่นด้วย เสน่ห์ยามค่ำคืน
ครีเอเตอร์สาย Vlogการทำ Vlog ระดับโปร ครบจบในเครื่องนี้

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                 วีโว่ vivo V30 Pro 5G (12GB/512GB)
   ราคากลาง              19,999 บาท ดูโทรศัพท์มือถือราคาใกล้เคียง
   จำนวนซิม               2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์                จอสัมผัส
   สี                         White(Shell White), Black(Night Sky Black)
   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM 850/900/1800/1900 MHz)
3G(WCDMA B1/B2/B4/B5/B8)
4G(FDD-LTE B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28)
5G(n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n40/n41/n77/n78)

   ขนาด-น้ำหนัก                     ยาว 164.36 x กว้าง 75.1 x หนา 7.45 มม., น้ำหนัก 188 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)     512 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด       -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ          ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                จอสัมผัส (AMOLED)
   ความละเอียด         6.78 นิ้ว, 452 ppi, 1,260 x 2,800 px
   รายละเอียดอื่น
อัตรารีเฟรช 60 Hz, 120 Hz

ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC

วัสดุเปล่งแสง A22 (Q9)

การสัมผัสหน้าจอ Capacitive multi-touch

ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 2800 nits

ขอบเขตสี 100% DCI-P3

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (50 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                             -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)           MediaTek Dimensity 8200
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)   Mali-G610 MC6
   หน่วยความจำ (RAM)                12.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                  USB(2.0), Bluetooth(5.3), NFC, Wi-Fi(2.4 GHz, 5.1 GHz, 5.5 GHz, 5.8 GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ                    -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                3G, WiFi, 4G, 5G

9
บริการด้านอาหาร: อาหารลดรอยเขียวช้ำ หลังศัลยกรรม
 
เชื่อว่า สาวๆหลายคนที่อยากมีหน้าตาที่สวยงาม หรืออยากที่จะมีใบหน้าที่เป็นเสน่ห์และอยากเป้นที่ประทับใจ คงจะหนีไม่พ้นการเข้าทำศัลยกรรม ซึ่งในปัจจุบันนี้ถือว่า การศัลยกรรม กำลังได้รับความนิยมมาก และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งใครที่เคยผ่านมีดหมอมาแล้ว จะทราบกันดีว่า หลังทำศัลยกรรมหลายๆคนอาจจะเกิดปัญหา รอยช้ำ ที่เกิดขึ้นหลังทำหัตถการ เหตุเกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกจึงทำให้มีเลือดเข้าไปสะสมบริเวณนั้น ผิวหนังจึงเปลี่ยนเป็นสีเขียวๆ ม่วงๆ หรือเป็นสีคล้ำ


เกิดขึ้นได้จากการกระแทกหรือแม้แต่หลังการผ่าตัดหลังจากการทำศัลยกรรมก็มีโอกาสที่จะทำให้เราเกิดรอยช้ำได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงวันที่2-3 วันหลังการศัลยกรรม และจะหายบวมช้ำไปเองใน 1-2 สัปดาห์ ปกติแล้วรอยช้ำนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ร้ายแรง และเมื่อถึงเวลาก็จะค่อยๆ หายไปได้เอง แต่ก็จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและอาหารการกินของเรา ซึ่งวันนี้ทางเราจะมาพูดถึง อาหารที่จะสามารถช่วยลดอาการฟกช้ำหรือรอยเขียวช้ำ หลังทำศัลยกรรมมาฝากกัน เพื่อให้สาวๆ ได้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้กลับมาสวยไวๆ
 

หลายคนเชื่อว่า การดื่มน้ำมะพร้าวหลังจากทำศัลยกรรมจะช่วยลดอาการเขียวช้ำได้ ซึ่งน้ำมะพร้าว มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายและบำรุงผิว เนื่องจากน้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 6 วิตามินซีฮอร์โมนเอสโตรเจน การดื่มน้ำมะพร้าวสดๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งหลังจากการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม จะช่วยลดอาการบวมและลดรอยช้ำได้เป็นอย่างดี ช่วยขับของเสีย ขับพิษออกจากร่างกาย ลดอาการกรดไหลย้อน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิว จึงทำให้ผิวพรรณเต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสได้นั่นเอง ต่อมาฟักทองหรือน้ำฟักทอง ซึ่งสามารถช่วยลดบวม ลดรอยเขียวช้ำได้


และยังรับประทานได้ง่าย รสชาติอร่อย อุดมไปด้วยวิตามิน A ช่วยรักษาอาการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อหลังการผ่าตัดได้ ส่งผลทำให้รอยช้ำหายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยดีท็อกซ์ขับสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยฟื้นฟูบำรุงสุขภาพผิว ให้เปล่งปลั่งสดใส ปกป้องไม่ให้ผิวเหี่ยวย่น นอกจากนี้ ใบบัวบก ก็ยังเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ลดรอยเขียวช้ำได้ เป็นอาหารที่หลายๆ คนนึกถึง เนื่องจากสรรพคุณของใบบัวบก คือการบำรุงการไหลเวียนของโลหิต ช่วยลดอาการบวมและบรรเทาอาการฟกช้ำ อย่างเช่น แผลผ่าตัดหรือแม้แต่รอยเล็กๆ และยังช่วยให้รอยแผลเรียบเนียนได้อีกด้วย


อาหารชนิดต่อมาก็คือ สาหร่าย ที่มีสรรพคุณช่วยลดบวมและลดรอยช้ำได้ เนื่องจากสาหร่ายเป็นพืชที่มีเส้นใย แร่ธาตุและแคลเซียมสูง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตร่างกายสามารถดูดซึมออกซิเจนได้อย่างปกติ ทำให้หลอดเลือดยืดหยุ่น และยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย เพราะมีใยอาหารช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยลดปริมาณไขมันคอเลสเตรอลชนิดไม่ดีต่อร่างกายได้ รวมไปถึงถั่วดำ ช่วยลดอาการอักเสบจากการติดเชื้อหรืออาการอักเสบหลังผ่าตัดได้ ลดอาการอักเสบจากแผลอาการลดรอยช้ำก็จะลดลง และถั่วดำช่วยการขับสารพิษออกจากร่างกาย มีสารแอนโทไซยานิน ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษได้ และถั่วดำเป็นอาหารที่มีประสิทธิภาพสามารถดีท็อกซ์สารพิษภายในร่างกายได้มากกว่าส้มสูงถึง 10 เท่าเลยทีเดียว และสุดท้าย มะเขือเทศ ที่หลายคนชื่นชอบ


ยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมายหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซีและวิตามินเอ ช่วยลดช่วยลดโซเดียม ทำให้ลดรอยช้ำได้ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงโรคร้ายต่างๆ ลดอาการการติดเชื้อการเสื่อมของร่างกายได้ดี เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้อเสื่อม โรคหลอดเลือด และโรคตาต้อกระจกได้ ทั้งหมดนี้คือ อาหารที่มีส่วนช่วยในการลดรอยเขียวช้ำหลังจากการทำศัลยกรรม แถมยังมีประโยชน์ในด้านการบำรุงระบบต่างๆของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย

10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



11
ขายรถไมล์น้อย Mitsubishi XPander Cross ปี2023 ราคาพิเศษ ประหยัดน้ำมัน

มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
Mitsubishi Xpander Cross รถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์โฉบเฉี่ยว สะท้อนความหรูหราผสานดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ และผู้ขับขี่ที่รักการผจญภัยและออกทริปเอาท์ดอร์ ด้วยฟังก์ชั่นระบบการขับขี่สุดล้ำสมัยที่เหนือกว่ารถในรุ่นเดียวกัน อย่างเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ “เอวายซี” (Active Yaw Control: AYC) ให้ความปลอดภัย เสถียรภาพการทรงตัว และความสะดวกสบายสูงสุด ในหลากหลายสภาพถนนและสภาพอากาศที่แตกต่าง มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ตอบสนองการทำงานกับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. 2567
ฟรี ประกันหลังการขาย เครื่อง เกียร์ (ส่งซ่อมห้าง) 1 ปี / 10,000 กม.
ฟรี บริการเซ็นเอกสารจัดไฟแนนซ์ถึงบ้านทั่วไทย

ราคาพิเศษ 628,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                 Mitsubishi
   รุ่น                          มิตซูบิชิ Mitsubishi Xpander Cross ปี 2023
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ MPV
   ปีที่เปิดตัว          2023


12
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี สามารถเข้ารับการจัดฟันเด็กได้หรือไม่ ?

สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่เด็ก จะทำให้เด็กเติบโตมาเป้นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตามไปด้วย พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่า ฟันน้ำนมของลูกไม่มีความสำคัญเพราะจะต้องมีฟันแท้ขึ้นมาแทนที่ แต่หารู้ไม่ว่า การที่เด็กมีฟันน้ำนมที่ไม่ดีนั้น ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ที่จะงอกมาแทนที่ อาจจะส่งผลให้มีลักษณะฟันที่ผิดปกติได้ เพราะถ้าหากฟันน้ำนมเกิดหักหรือหลุดก่อนเวลา อาจจะทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมามีรูปร่างและลักษณะที่ผิดปกติได้ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟันตั้งแต่เด็กๆ

ซึ่งการรักษาและแก้ไขในเรื่องของรูปร่างฟันในเด็กนั้น เด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น เด็กๆในวัยประถมก็สามารถจัดฟันได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น หลายปัญหาอาจสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดความรุนแรงได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะมีความสงสัยว่า ถ้าหากเราบุตรหลานของเรามีอายุต่ำกว่า 10 ปี และมีปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟัน จะมาสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ วันนี้ทางคลินิก เราจะมาพูดถึงประเด็นที่หลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยว่า เด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางให้บุตรหลานของท่านได้ทำความเข้าใจถึงกระบวนการรักษาและผลลัพธ์ที่ดีในการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

 การจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลายกรณี ซึ่งส่วนใหญ่ในวัยเด็กมักจะชื่นชอบรับประทานของหวานหรือลูกอม ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุในวัยเด็ก และเด็กบางคน อาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันได้ง่าย ดังนั้นการแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กที่ดีที่สุดก็คือ วิธีการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ซึ่งการจัดฟันในเด็กนั้น จริงๆแล้ว เด็กสามารถเข้ารับการรักษาได้ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ แต่ถ้าหากทันตแพทย์ประเมินเรื่องความร่วมมือในการรักษาแล้ว เด็กที่มีอายุ 7-8 ขวบจะดีที่สุด เพราะสามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งการจัดฟันในเด็กอายุที่ต่ำกว่า 10 ขวบนั้น ส่วนใหญ่จะใช้การจัดฟันที่เรียกว่า EF Line ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือที่เป็นเพียงชิ้นยางหลากหลายสี มีหลายขนาดตามอายุและขนาดของขากรรไกรเด็ก

คุณสมบัติของเครื่องมือชิ้นนี้ คือมันจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าของเด็กให้มาอยู่ถูกที่ถูกทาง และให้ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น ยิ่งในเด็กที่มีพฤติกรรมการดูดนิ้ว ดูดขวดนม แน่นอนว่า อาจจะทำให้เกิดโครงสร้างของฟันที่มีความผิดปกติ ซึ่งการใช้เครื่องมือ EF Line สามารถแก้ไขได้ ทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างของใบหน้าให้เข้าที่และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ สำหรับระยะเวลาในการใส่เครื่องมือ ก็จะขึ้นกับปัญหาฟันของเด็กแต่ละคน และความมีวินัยในการใส่เครื่องมือ คือ ต้องสวมใส่ให้ได้จำนวนชั่วโมงมากที่สุด กลางคืนนอนให้ใส่ตลอดเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อระเบียบวินัยระหว่างการจัดฟัน

 หากใครพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สาามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมาอย่างอย่างยาวนาน สามารถปึกษาทันตแพทย์ถึงวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกน้อยได้ ทันตแพทย์ของเรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมกับแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวหากลูกน้อยของคุณเข้ารับการจัดฟันที่คลินิก เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีฟันที่สวยงามตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย

13
เที่ยววัด ไหว้พระอยุธยา 9 วัด สายมูห้ามพลาด ทำบุญเสริมมงคล ส่งผลดีตลอดปี

อยุธยา ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยม เพราะเดินทางสะดวก มีเวลา 1 วันก็ไปเช้า-เย็นกลับได้ อีกทั้งยังเป็นราชธานีเก่าแก่ของไทยที่หลงเหลือร่องรอยความเจริญในอดีตผ่านวัดวาอาราม โบราณวัตถุ หรือโบราณสถาน จนเกิดเป็นกิจกรรมการตระเวนไหว้พระอยุธยา เพื่อไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว พร้อมชมความงดงามของเจดีย์และสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา แต่หลายคนไม่รู้จะไปที่ไหนดี เราเลยจะชวนสายมูไปตะลุยไหว้พระอยุธยา 9 วัด ตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขอพรให้สมหวัง ทั้งเรื่องการงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก และอื่น ๆ จะมีวัดไหนบ้างนั้น ไปดูกัน


วัดกลางคลองสระบัว

          วัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 250 ปี ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยาทางทิศเหนือ ริมฝั่งคลองสระบัว ไม่ไกลจากวัดหน้าพระเมรุมากนัก เล่ากันว่าหลังจากเสียกรุงครั้งที่ 2 มีพระธุดงค์มาพำนักบริเวณวัด ได้เห็นร่องรอยของเสมาวิหารเก่าและพระพุทธรูปปูนปั้น 4 พระองค์ จึงบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับเกิดเหตุฟ้าร้องดังสนั่นหลายครั้ง ทำให้พระพุทธรูปปูนปั้นปริแตกทั้งหมด เผยให้เห็นพระพุทธรูปทองสำริดอยู่ด้านใน (ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์) ไฮไลต์ของการมาเยือนวัดแห่งนี้คือการสักการะ "หลวงพ่อทันใจ" พระพุทธรูปแกะสลักเป็นลายดอกพิกุล อายุกว่า 300 ปี และ "หลวงพ่อเพชร" พระพุทธรูปปางมารวิชัย อายุกว่า 600 ปี สองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่พึ่งทางใจ ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรในเรื่องต่าง ๆ ทั้งสุขภาพ ค้าขาย หน้าที่การงาน และการเรียน หากสัมฤทธิผลจะนำไข่ต้มมาแก้บน ที่นี่เปิดให้สักการะทุกวัน ส่วนวิธีไหว้หลวงพ่อทันใจต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนแบบไหน ตามไปหาคำตอบกันเลย
    ที่ตั้ง : ตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.


วัดตะโก

          วัดเก่าแก่ของเมืองกรุงเก่า ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี ห่างจากตัวเมืองอยุธยาประมาณ 30 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2345 เป็นสถานที่ประดิษฐานสรีระสังขาร หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เกจิอาจารย์ชื่อดังในเรื่องวัตถุมงคล เมตตา มหานิยม บรรจุอยู่ในโลงแก้ว ภายในชั้น 1 ของพระมหาธาตุเจดีย์มงคลสิทธาจารย์สีเหลืองทองส่องประกาย ผู้คนไปกราบไหว้ขอพรเสริมความมั่งคั่ง เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายร่ำรวย ขอโชคลาภเสี่ยงดวงให้ชีวิตพบสิ่งดี ๆ นอกจากนี้ภายในวัดยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สักการบูชามากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อบุญญาฤทธิ์ หลวงพ่อรวย และท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น รวมถึงมีศาลากลางน้ำทรงไทยล้อมด้วยพญานาคสีขาว สามารถนั่งพักให้อาหารปลาได้ ด้วยวัดมีพื้นที่กว้างขวาง จึงมีที่จอดรถจำนวนมาก หากจอดไกลสักหน่อยก็จะมีรถรางบริการนำส่ง บริเวณรอบกำแพงวัดยังมีร้านค้านำวัตถุมงคลเกี่ยวกับหลวงพ่อรวยมาให้เช่าบูชาด้วย

    ที่ตั้ง : หมู่ 2 ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.


วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร

          วัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ในตัวเกาะเมือง ด้านหลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม ใกล้กับตลาดหัวรอ เป็นพระอารามหลวง ฝ่ายธรรมยุตนิกาย บรรยากาศในวัดร่มรื่น เงียบสงบ พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระสัมพุทธมุนี เป็นพระประธาน ด้านหลังมีพระเจดีย์สีขาวตั้งตระหง่าน เยื้องกันคือวิหารพระนอนองค์ใหญ่ ใกล้กันประดิษฐาน "หลวงพ่อพระอุปถัมภ์" ผู้คนมักไปขอพรเรื่องสุขภาพหรือขอบุตร ส่วนบริเวณด้านหลังคือพระวิหาร "พระอินทร์แปลง" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง นิยมไปไหว้เสริมเรื่องความเจริญก้าวหน้า นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งภายในพระอุโบสถและพระวิหารพระอินทร์แปลง เขียนขึ้นพร้อมกันในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 บอกเล่าเรื่องราวเทพชุมนุมและพระราชพิธีเดือนสิบสอง ซึ่งทางเข้าวัดจะมีหลายทิศทางแต่ละจุดจะมีที่จอดรถให้

    ที่ตั้ง : หมู่ 10 ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.


วัดพนัญเชิงวรวิหาร

          วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญในสมัยอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ริมแม่น้ำป่าสักบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับหมู่บ้านฮอลันดา สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง โล่ง ไม่แออัด ที่จอดรถจำนวนมาก ที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือ "หลวงพ่อโต" พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ขนาดใหญ่สุดในจังหวัด หน้าตักกว้าง 20 เมตร สูง 19 เมตร ผู้คนมักไปห่มผ้าและขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย เสริมบารมี ด้านข้างริมน้ำจะเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมจีน เพื่อถวายเป็นที่สถิตของ "พระนางสร้อยดอกหมาก" เจ้าหญิงจากเมืองจีนที่เกิดตำนานรักและจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ณ บริเวณนี้ คนโสดหรือมีคู่ครองมักไปขอพรในเรื่องความรัก และมีกิจกรรมแนะนำหลังจากไหว้พระ คือการไปให้อาหารปลาที่ท่าน้ำของวัด พร้อมนั่งชมวิวสองฟากฝั่งกันได้

    ที่ตั้ง : หมู่ 2 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น.


วัดหน้าพระเมรุราชิการามวรวิหาร

          วัดในอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลาย ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง ไม่ไกลจากวัดวัดเชิงท่าและพระราชวังโบราณ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2046 ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น แต่เดิมเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ จากอดีตถึงปัจจุบันยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาในสภาพสมบูรณ์ โดยเฉพาะพระอุโบสถที่มีหน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค ภายในประดิษฐาน "พระพุทธนิมิต" พระพุทธรูปปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช คนนิยมไปลอดซุ้มประตูหน้าบันพระอุโบสถเพื่อแก้เคราะห์และขอพรในเรื่องต่าง ๆ ใกล้กันคือวิหาร "พระคันธารราฐ" อายุกว่า 1,500 ปี มักไปไหว้เสริมยศเสริมตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโบราณอื่น ๆ ให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิหารหลวงพ่อขาว เจดีย์เก่า หรือต้นโพธิ์ปรกเจดีย์ อีกทั้งบริเวณวัดยังมีพื้นที่จอดรถกว้างขวางให้ด้วย

    ที่ตั้ง : หมู่ 4 ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.


วัดสามวิหาร

          วัดเก่าของอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะเมือง ริมฝั่งคลองบางขวด ไม่ไกลจากวัดแม่นางปลื้ม สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1920 โดยหม่อมหลวงชีดำร่วมกับพี่น้อง แบ่งกันสร้างวิหารพระนอน วิหารหลวงพ่อขาว วิหารพระยืน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงวิหารพระนอนและวิหารพระนั่ง และยังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากใบเสมาที่มีร่องรอยกระสุนปืนใหญ่ในสมัยอยุธยาหลงเหลืออยู่ ภายในวิหารพระนอนประดิษฐานพระนอนองค์ใหญ่ ความยาว 21 เมตร อายุกว่า 600 ปี ว่ากันว่าหากได้มาสักการะจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี รวมถึงไหว้ขอพรจากหลวงพ่อขาว ซึ่งหากสำเร็จผลมักแก้บนด้วยขนมหวาน ขนมไทย นอกจากนี้ยังหลวงพ่อทองที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ พระเจดีย์ ศาลพระเจ้าตากสิน และศาลเจ้าพ่อสมศักดิ์ เป็นต้น ทางวัดมีพื้นที่จอดรถให้บริเวณด้านหน้า โดยเปิดให้สักการะทุกวัน

    ที่ตั้ง : บ้านคลองบางขวด ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : 07.00-16.00 น.


วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

          วัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก นอกเกาะเมือง ตรงข้ามกับเจดีย์พระศรีสุริโยทัย และไม่ไกลจากวัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดของพระมหากษัตริย์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระพุทธกษัตราธิราช" ปางมารวิชัย ตั้งอยู่บนฐานชุกชี นิยมไหว้ขอพรเรื่องเมตตามหานิยม ตลอดจนเสริมบารมีในหน้าที่การงาน ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของ "พระพุทธชนะมาร" มักห่มผ้าขอพรเสริมมงคล ค้าขายรุ่งเรือง อีกทั้งวิหารทิศใต้ยังมีรูปหล่อหลวงปู่เทียม สิริปัญโญ พระเกจิอาจารย์ดังแห่งกรุงเก่า เป็นอดีตเจ้าอาวาสที่มีชื่อเสียงด้านตะกรุด ความอยู่ยงคงกระพันและเมตตา วัดแห่งนี้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2541 บริเวณวัดยังมีพื้นที่กว้างขวาง จอดรถได้สะดวก

    ที่ตั้ง : ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.


วัดธรรมิกราช

          วัดหลวงที่สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี โดยพระยาธรรมมิกราช ราชโอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ตั้งอยู่ในตัวเกาะเมืองอยุธยา ติดกับพระราชวังโบราณทางด้านทิศตะวันออก และไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครีอยุธยา ท่าวาสุกรี ตัววัดมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่แออัด บรรยากาศเงียบสงบ เป็นวัดที่มีประวัติและโบราณสถานที่น่าสนใจ เพราะในอดีตพระมหากษัตริย์จะเสด็จมาฟังธรรมเป็นประจำในวันพระ ภายในยังประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระนอนองค์ใหญ่ คนมักไปขอพรให้สุขภาพแข็งแรง "เศียรพระธรรมิกราช" เศียรพระพุทธรูปหล่อสำฤทธิ์ที่เชื่อกันว่าคนที่มีเรื่องคดีความ หากได้มากราบไหว้จะช่วยให้จบลงด้วยดี นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ทรงกลมที่มีปูนปั้นรูปสิงห์ล้อม อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้ได้สักการบูชากันด้วย โดยสามารถจอดรถภายในบริเวณวัดได้เลย

    ที่ตั้ง : ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.


วัดพุทไธศวรรย์

          พระอารามหลวงเก่าแก่ที่ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก สร้างมานานกว่า 600 ปี โดยเป็นวัดที่พระเจ้าอู่ทองโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยตั้งพลับพลาที่ประทับ เมื่อครั้งอพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาก่อนที่จะมีการสถาปนา ภายในวัดมีทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโบราณน่าสนใจ ทั้งพระมหาธาตุ หรือปรางค์ประธานสีขาวศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาส วิหารพระพุทไธศวรรย์ (พระนอน) หลวงพ่อดำ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ว่ากันว่าหากเจ็บป่วยมักไปขอพรให้หายหรืออาการทุเลาลง นอกจากยังมีเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์และเล่าขานกันว่าเคยเป็นสถานที่ฝึกอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารก่อนที่จะออกศึกสงคราม รวมถึงยังมีโบราณสถานอีกมากมาย โดยเฉพาะตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ประจำอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม

    ที่ตั้ง : ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

14
รถยนต์ไฟฟ้า 2024: เอ็มจี MG 4 Xpower ปี 2024
1,119,900 บาท 

เอ็มจี MG 4 Xpower ปี 2024
MG4 Xpower รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นสมรรถนะสูงขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด ถึง 600 นิวตันเมตร พร้อมที่สุดของการควบคุมด้วยช่วงล่างที่ออกแบบใหม่ให้สามารถรองรับความแรงบิดสูงจากมอเตอร์คู่ และ แพลตฟอร์มที่ออกมาเพื่อเป็นรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มมาตรฐาน EURO NCAP 5 ดาว สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC   

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์             MG
   รุ่น                  เอ็มจี MG 4 Xpower ปี 2024
   ประเภทรถ         รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา               1,119,900 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (หลังคาทูโทน,Adaptive Grille ที่สามารถปรับองศาให้สอดคล้องกับความเร็วได้)
ซันรูฟ (เปิดได้)
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค (แบบ LED ทรง Twin Arrow Wing)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (ปรับไฟฟ้า)
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED (ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT)
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
ไฟหน้า LED (LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS)
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
ระบบ VtoL (Vehicle to Load)

   ภายใน
ตกแต่งภายใน (คอนโซลกลาง Floated Central Control Platform)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ (-เทา แบบ ทูโทน)
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor จำนวน 2 ตัว โดยมอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และมอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 231 แรงม้า รวมให้พละกำลังสูงสุดที่ 435 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)      แรงม้า
   ระบบเกียร์                        เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                      EDS
   ระบบเบรค ABS                มี (พร้อมระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทอรนิกส์ EBA)
   ชนิดแบตเตอรี่                  ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                  64 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง    480 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
   น้ำหนักตัวรถ                       -
   ประเภทยางรถยนต์                -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                  ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                 ขับเคลื่อนสี่ล้อ (ALL WHEEL DRIVE)

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (SCS,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS)
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ (คาลิปเปอร์เบรกสีส้ม Xpower)
กุญแจรีโมท
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS,ระบบช่วยเบกขณะถอย,KERS)
เข็มขัดนิรภัย (คู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HAS)
อื่นๆ (ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK โดยรวมระบบ LDP และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW)
ระบบสั่งการด้วยเสียง
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ
กล้อง (มองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) (หรือ ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System))
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW) (BSD (Blind Spot Detection),ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA)
เบรกมือไฟฟ้า

15
Mitsubishi Triton 2024: Ironman 4×4 เปิดตัวอุปกรณ์เสริมให้รถกระบะ Mitsubishi Triton ใหม่

บริษัทจูนเนอร์ออสเตรเลีย Ironman 4×4 เปิดตัวอุปกรณ์เสริมชุดแรกสำหรับรถกระบะขนาดกลาง Mitsubishi Triton ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์และการใช้งานให้อเนกประสงค์สมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น


โดดเด่นมาด้วยชุดกันชนหน้าใหม่ถึง 3 รูปแบบดีไซน์ ที่ทำจากเหล็กเคลือบสีฝุ่นและผสานคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของปิ๊กอัพมาตรฐาน มีจุดยึดสำหรับอุปกรณ์เพิ่มเติม มีไฟ LED เพิ่มเติม แท่นยึดเสาอากาศคู่ที่ติดตั้งอยู่แล้ว เพิ่มช่องรับอากาศแบบรังผึ้ง



ด้านท้ายกับชุดกันชนหลังใหม่กันชนเหล็ก ชุดอุปกรณ์กันสะเทือนต่าง ๆ มีตัวเลือกระหว่างการกำหนดค่าก๊าซไนโตรหรือเซลล์โฟม ในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับงานเบา ปานกลาง และงานหนัก โดยสำหรับอุปกรณ์เสริม Ironman 4×4 สำหรับ Mitsubishi Triton / L200 มีกำหนดผลิตในต้นเดือนกรกฎาคม ปี 2024

ซึ่งทางบริษัทยังได้ประกาศอุปกรณ์เสริมหลายอย่างที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา รวมถึงหลังคา รางเลื่อน ราวบันได/บันไดข้าง อุปกรณ์ป้องกันใต้ท้องรถ และ แร็คหลังคา อีกด้วย


เฟรมใหม่, แชสซีส์ใหม่, เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ จะมาพร้อมกันใน All-New Mitsubishi Triton

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า รถกระบะรุ่นใหม่ All-New Mitsubishi Triton ซึ่งจะเปิดตัวรอบเวิลด์พรีเมียร์ในประเทศไทยวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งคัน โดยใช้เฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับ All-New Triton โดยเฉพาะ ทั้งยังประกอบด้วยแชสซีส์ใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่อันทรงพลังด้วยเทคโนโลยีคลีนดีเซล ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะโดยมีมลภาวะต่ำ พร้อมจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจ เกาะถนนเป็นเลิศ พร้อมความสะดวกสบายในทุกที่นั่ง ให้คุณสามารถตะลุยทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน โดยเปิดตัวคลิปพิเศษ! บอกเล่าแรงบันดาลใจในการออกแบบพัฒนา และการทดสอบสมรรถนะของรถปิกอัพ All-New Triton ในสภาวะต่างๆ ทั่วโลก


และเพื่อต้อนรับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ระดับปฏิวัติวงการของ All-New Mitsubishi Triton มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ฟรี! เฉพาะลูกค้าในไทยที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ภายใน 25 กรกฎาคม 2566 จะได้รับ 3 ข้อเสนอพิเศษสุดเร้าใจ ทั้งชุดแต่งแท้รอบคัน เสริมพลังหล่อเข้มเต็มพิกัด และชุดของขวัญรุ่นลิมิเต็ด “ออล-นิว ไทรทัน ลิมิเต็ด บ็อกซ์เซ็ต” พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ ทริปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างจุใจ รวมมูลค่ากว่า 240,000 บาท

รถใหม่ 2023 All-New Triton เป็นรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มุ่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เปี่ยมความปลอดภัย อุ่นใจได้ในสมรรถนะการขับขี่บนสภาพถนนและสภาพอากาศทุกรูปแบบ ซึ่งมาพร้อมกับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกที่นั่งด้วยแพลตฟอร์มใหม่ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อ All-New Triton โดยเฉพาะ ประกอบด้วยเฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ สุดแกร่ง และช่วงล่างที่ปฏิวัติดีไซน์ใหม่ยกชุด จากด้านหน้าจรดท้าย โดยด้านหน้าเป็นช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เสริมด้วยช่วงล่างด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อนนวัตกรรมใหม่ เติมความนุ่มนวลขณะขับขี่ให้ All-New Mitsubishi Triton เกาะถนนและทรงตัวมั่นคงสูงสุด พร้อมขุมพลังใหม่! เครื่องยนต์คลีนดีเซลเทอร์โบ ให้กำลังแรงสมรรถนะสูงกว่าเดิม แต่มีมลภาวะต่ำ ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า ตอบโจทย์ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ


มร. โยชิกิ มาสุดะ หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยว่า “การออกแบบออล-นิว ไทรทัน รุ่นใหม่นี้ เป็นการพลิกโฉมทุกมิติ ปฏิวัติทุกอณูในรอบ 9 ปี เริ่มตั้งแต่เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ช่วงล่างใหม่ ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแข็งแกร่งทรงพลังนำสมัย ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ เพิ่มความสะดวกสบาย และจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยสู่ขั้นสุด”

“เราได้พูดคุยเจาะลึกกับลูกค้ามากมายเพื่อวิเคราะห์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยังได้ตะลุยทดสอบสมรรถนะของ All-New Mitsubishi Triton ในสนามจริงท่ามกลางสภาพอากาศและสภาพถนนที่สมบุกสมบันทั่วโลก เราจึงมั่นใจว่ารถกระบะ All-New Triton รถใหม่ 2023 นี้จะสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทั่วโลกทุกคน ทั้งการใช้งานส่วนตัว และเพื่อการพาณิชย์ โปรดติดตามการเปิดตัว All-New Triton อย่างใกล้ชิดครับ” มร. มาสุดะ กล่าวทิ้งท้าย

การเปิดตัว All-New Mitsubishi Triton รอบเวิลด์พรีเมียร์ จะมีขึ้นใน วันพุธที่ 26 กรกฎาคม โดยจะมีการถ่ายทอดสด
ไลฟ์สตรีมทางออนไลน์ ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

หน้า: [1] 2 3 ... 35