ผู้เขียน หัวข้อ: "เม็ดแมงลัก" กับข้อควรระวังก่อนทานเพื่อลดน้ำหนัก  (อ่าน 36 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 291
  • ลงโฆษณา อย่างคุ้มค่าในการลงโฆษณา ได้ผลที่สุด รับจ้างโพส รับโปรโมทเว็บ
    • ดูรายละเอียด
เม็ดแมงลัก คือ สมุนไพร มีลักษณะกลมยาว สีดำ เมื่อนำไปแช่น้ำจะสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า และมีเมือกห่อหุ้ม มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง
ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก

1.    ช่วยขับคอเลสเตอรอลไม่ดีออกจากร่างกาย เพราะเม็ดแมงลักมีเส้นใยที่ช่วยดูดซับไขมันได้ เมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยกากใยพวกนี้ได้ ไขมันไม่ดีจึงถูกขับออกมาพร้อมกับเส้นใยของเม็ดแมงลัก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ด้วย

2.    เป็นยาระบาย ช่วยลดอาการท้องผูกหรือมีปัญหาในการขับถ่าย เนื่องจากเปลือกของเม็ดแมงลักเป็นสารเมือกหลังแช่น้ำ และยังมีกากอาหารที่หนาแน่น ช่วยทำความสะอาดผนังลำไส้ อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ทำให้การขับถ่ายได้สะดวกขึ้น

3.    เม็ดแมงลักไม่สามารถทำให้ไขมันสะสมสลายไปได้ แต่ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ เพราะเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน พองตัวได้นาน ทำให้กินแล้วอิ่มท้องนานขึ้น และกินอาหารอื่นๆ ได้น้อยลง

4.    เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะการพองตัวของเม็ดแมงลักทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารได้ช้าลง นั้นหมายความว่าร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลได้น้อยลงด้วย



วิธีกินเม็ดแมงลักให้ได้ประโยชน์

ใช้เม็ดแมงลัก 1-2 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 แก้วใหญ่ แช่ให้เม็ดพองเต็มที่ ถ้าจะกินเพื่อลดน้ำหนัก ให้กินก่อนอาหาร แนะนำให้กินในมื้อเย็น แต่ถ้าใช้เป็นยาระบายให้กินก่อนนอน จะทำให้การขับถ่ายดีในตอนเช้า

 
ข้อควรระวังของเม็ดแมงลัก

    การแช่เม็ดแมงลักจะต้องแช่ให้พองตัวเต็มที่ เพราะถ้ากินเม็ดแมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่เข้าไป จะทำให้เม็ดแมงลักไปดูดซับน้ำในกระเพาะ ทำให้มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารและทางเดินอาหาร เม็ดแมงลักอาจจับตัวเป็นก้อนอุดตันในลำไส้ ทำให้เกิดลำไส้อุดตันและมีอาการท้องผูกได้

    ไม่ควรกินเม็ดแมงลักทุกมื้อ เพราะจะทำให้เราได้สารอาหารอื่นๆ ไม่เพียงพอ แนะนำให้กินวันละ 1 มื้อ

    คนที่ลดน้ำหนักด้วยการกินเม็ดแมงลัก ต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และการควบคุมอาหารด้วย เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ได้ช่วยเรื่องการเผาผลาญแต่อย่างใด



7 ความเชื่อผิดๆ ยอดฮิตของการลดน้ำหนัก

หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการลดน้ำหนักมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แป้งทำให้อ้วน หลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมัน หรือจะเป็นงดกินของทอดทุกชนิด

1. กินให้น้อยๆ

ร่างกายคนเรามีระบบเมตาบอลิซึม (ระบบเผาผลาญ) ซึ่งจะทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้รับสารอาหารที่น้อยลงจากปกติไปเรื่อยๆ จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง จากนั้นร่างกายจะนำเอาไขมันมาเก็บเป็นพลังงานสำรอง ซึ่งแปลว่าน้ำหนักจะเริ่มไม่ลดลง และเมื่อกลับมากินแบบปกติจะเกิด “โยโย่เอฟเฟกต์” ตามมา ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น กินอย่างพอเหมาะ คำนวณแคลอรี่ให้ดี ชีวิตนี้ห่างไกลพุงใหญ่ๆแน่นอน


2. ฝืนในสิ่งที่ไม่อยากทำ เพื่อให้ลดน้ำหนักได้

การลดน้ำหนัก/ไขมันมีมากมายหลายวิธี ไม่จำเป็นว่า จะต้องเดินเข้าฟิตเนสอย่างเดียว การวิ่ง กระโดดเชือกหรือการเล่นกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ก็สามารถลดน้ำหนักได้ ขอแค่ให้พลังงานที่รับเข้า น้อยกว่าที่ใช้ไป เลือกวิธีที่เราชอบ การได้ทำในสิ่งที่ชอบย่อมทำได้นาน


3. กินหลัง 6 โมงเย็นแล้วจะอ้วน

แท้จริงแล้วจะอ้วนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแคลอรี่ต่อวันที่เราได้รับ ถ้ารับแคลอรี่มากกว่าที่ใช้ออกไป ยังไงก็อ้วน เพราะฉะนั้นจึงมีคำแนะนำมากมายให้ออกกำลังกายสม่ำเสมออาทิตย์ละ 3-5 วัน เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี่ออกไป เมื่อแคลอรี่ที่ใช้ออกไปมีมากกว่าที่ได้รับ ไม่ว่ากินเวลาไหน ยังไงก็ผอม


4. ยิ่ง Detox ยิ่งลดไขมันได้

เมื่อพูดถึง Detox ก็จะนึกถึงพวกน้ำผัก น้ำผักไม่ค่อยจะมีคาร์โบไฮเดรตสักเท่าไหร่ เมื่อเราไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตหรือรับน้อยลงจากปกติ จะส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงค่อนข้างเร็ว อาจจะลดได้ถึง 3-5 กิโลเลยทีเดียวในช่วงแรก แต่นั่นก็คือน้ำหนักของน้ำซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไขมันทั้งหมด เพราะฉะนั้นหากอยากลดไขมันในร่างกาย หันมากินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หุ่นเฟิร์มไม่หนีไปไหนแน่นอน


5. งดกินไขมันทุกชนิด

ไขมัน มีหน้าที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย นอกจากนั้นยังมีความจำเป็นในการสร้างฮอร์โมนเพศ โดยปกติร่างกายคนเราต้องการสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพื่อรักษาสมดุลในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือ ไขมัน ซึ่งมีทั้งไขมันที่ดีและไม่ดี  ไขมันดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ ตัวอย่างไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า และปลาทะเลน้ำลึกเป็นต้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรหันมาบริโภคไขมันดีในปริมาณที่พอเหมาะดีกว่างดไขมันทุกชนิด เพื่อสุขภาพที่ดี


6. สลัด อาหารที่ดีของคนลดน้ำหนัก

เมื่อคิดถึงอาหารที่จะใช้ในการลดน้ำหนัก ไม่ว่าหญิงหรือชาย มักจะพุ่งเป้าไปที่ สลัด เพราะผักมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะแก่การกินในช่วงลดน้ำหนัก แต่กลับลืมนึกถึงว่า สลัดก็ต้องคู่กับน้ำสลัด ซึ่งน้ำสลัด นี่แหละคือตัวการที่ทำให้จากแคลอรี่ต่ำๆ สูงขึ้นทันตา ตัวอย่างน้ำสลัดที่มีแคลอรี่สูง เช่น มายองเนส น้ำสลัดงา เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกน้ำสลัดที่ไม่มีน้ำมันหรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใส่ในปริมาณที่น้อย


7. ออกกำลังกายหนักๆ ช่วยได้

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรอยู่ในความพอดี หากหักโหมมากเกินไป ร่างกายจะรับไม่ไหวและอาจเกิดภาวะ “โอเวอร์เทรน” ทำให้อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เบื่ออาหาร นอกจากที่จะต้องพักออกกำลังกายแล้ว อาจทำให้เสียงานได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรหักโหมมากเกินไป กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว คนเราก็ไม่ได้ผอมเพียงแค่ออกกำลังกายวันเดียวเช่นกัน ทุกอย่างต้องใช้เวลา

                                   
เมื่อรู้กันอย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังเข้าใจผิดอยู่ก็อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันด้วยล่ะ เพียงแค่หันมา ออกกำลังกายและคุมอาหาร เพียงเท่านี้ น้ำหนักของเราจะลดลงไปพร้อมกับการมีสุขภาพดีอย่างแน่นอน


"เม็ดแมงลัก" กับข้อควรระวังก่อนทานเพื่อลดน้ำหนัก อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/